พุทธศาสนสุภาษิต
จิตตัง ทันตัง สุขาวหัง : จิตที่ฝึกดีแล้วนำสุขมาให้
จิตที่ฝึกดีแล้ว หมายถึง จิตที่ได้รับการดูแลรักษาและฝึกฝนอบรมมาเป็นอย่างดีแล้ว เป็นจิตที่มั่นคง ไม่หวั่นไหว ปราศจากกิเลส เป็นจิตที่มีปัญญาเป็นตัวกำหนดจิต
การฝึกฝนจิตในทางพระพุทธศาสนา เรียกว่า การบริหารจิต ซึ่งก็คือการทำสมาธิ หรือการทำจิตให้นิ่ง ไม่วอกแวก นั่นเอง เช่น การกำหนดลมหายใจเข้าออก การตั้งสติพิจารณาสิ่งต่างๆ ให้รู้และเข้าใจตามความเป็นจริง
ในชิวิตประจำวันคนเรานั้นต้องประสบกับเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย ทำให้จิตใจต้องเผชิญกับอารมณ์และความรู้สึกที่แตกต่างกัน เช่นดีใจ เสียใจ ผิดหวัง สมหวัง โกรธ อิจฉาริษยา สรรเสริญ นินทา เป็นต้น
ผู้ที่ไม่ได้รับการฝึกอบรมจิต อาจแสดงพฤติกรรม ออกมาตามความรู้สึกที่เกิดขึ้นในจิตใจ บางครั้งก็แสดงออกมาจนเกินเหตุ รุนแรง ก้าวร้าว มีการใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น ทำร้ายตนเอง และทำให้สุขภาพจิตเสีย เกิดความทุกข์ในจิตใจ เกิดความเครียด ทำให้จิตใจเศร้าหมอง
แต่หากผู้ใดได้รับการฝึกอบรมจิตมาอย่างดี ก็ย่อมรู้จักควบคุมจิตใจ ให้ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว ไปกับ กิเลสทั้งปวง
เช่นสามารถระงับความโกรธได้ โดยไม่แสดงสีหน้า กิริยา หรือวาจาโต้ตอบ ผู้ที่ทำให้เกิดความโกรธ หากเป็นเช่นนี้แล้ว
บุคคลนั้นก็จะพบแต่ความสุข ไม่ยินดี ไม่ยินร้ายกับสิ่งที่มากระทบจิตใจ ไม่นำสิ่งเหล่านั้นมาทำให้เกิดความทุกข์ในใจ
ความสุขก็จะเกิดขึ้น ปัญญาก็จะตามมา ถ้าเรามีแต่ความทุกข์ปัญญาก็จะหายไป
การฝึกจิตนั้นดี เพื่อให้จิตมีคุณภาพพ้นจากการตามนํ้าตามวิ่งหาสิ่งที่ชอบใจตลอดวันไม่รู้จักพักเป็นจิตขั้นต่ำไม่มีพลัง ไม่รู้จักสิ่งไหนให้คุณให้โทษเพราะมัวตามกระแสโลกจนชินชา
ตอบลบเมื่อนำจิตมาฝึกให้อยู่นิ่งได้แล้ว เป็นจิตมีพลังรู้ผิดรู้ถูกศีลธรรมรู้โทษของอารมณ์ดีแล้ว
แม้ในชีวิตปัจจุบันจิตรู้จักเข้าพักไม่แส่ส่ายออกหิสอารมณ์อีกแล้ว และยังรู้จักฝืนทวนกระแสอารมณ์ที่กระหน่ำมาทางหูตาจมูกลิ้นกาย รู้วิธีละรู้วิธีหยุด ปล่อยอารมณ์ไปแบบรู้ทัน เลือกรับอารมณ์กุศลเท่านั้น
ทำได้อย่างไร การฝึกสมาธินั้นสิ่งหนึ่งเรียกว่าสติจะเป็นพี่เลี้ยงจิตตลอดเวลาเมื่อใดจิตขึ้นชั้นเป็นจิตที่ฝึกดีแล้วมีสัมปชัญญะรู้สึกตัวทั่วพร้อมตลอดร่างกายทุกลมหายใจเข้าออก
เป็นจิตที่อยู่สุขอย่างยิ่งในปัจจุบัน
ส่วน
จิตที่คบอารมณ์ไม่เลือกเหมือนเด็กไม่รู้ถึงอันตรายรอบด้าน อีกส่วนจิตที่สงบจากอารมณ์ไม่เข้าใกล้อันตรายจึงอยู่ในที่ปลอดภัยมีความสุขสงบปราศจากนืวรณ์รบกวน
ทีนี้การฝึกจิตให้สงบต้องมีอุบาย ต้องให้จิตทำงานด้านต่างๆให้จดจำทำเป็นคือฝึกกรรมฐานเกิดความรู้ทางธรรมขึ้นมาเช่นการฝึกอานาปานสติ เป็นกรรมฐานที่อาศัยลมหายใจออกลมหายใจเข้าเป็นเครื่องรู้ทำให้เกิดให้มีขึ้นทำบ่อยๆจนจิตรู้ลมหายใจเป็นเครื่อง
ใช้ของสติ อันนี้ไม่พลาด ฉลาดทางโลกเลี้ยงชีพชอบกับมีปัญญาทางธรรม คือรู้แล้วรู้จักปล่อยวาง เห็นจริงตามเป็นจริง ว่าสิ่งใดประกอบขึ้นมาสิ่งนั้นต้องแตกสลายกันไปเป็นธรรมดา สังขาร สสาร ขันธ์๕
ความสุขภายในนั้นเราฝึกจิตได้
ความสุขภายนอกยังต้องอาศัยเครื่องล่อเครื่อง่ต่อไม่สิ้นสุดวนอยู่กับเดี๋ยวสุขน้อยเดี๋ยวทุกข์มาก พลัดพรากจากสิ่งที่รักที่ชอบใจ
ฉะนั้นหันมาหาความสุขภายในกันเถิด
แค่วันละ ๕ นาทีฝึกสมาธิรู้ลมหายใจออกรู้ลมหายใจเข้า เข้าใจหลักการและค้นพบวิธีภาวนาแล้ว นั่งสมาธิรู้สึกเบาสบายไม่มีเวทนาครอบงำ
@ kaijae99@gmail.com